คราบน้ำฝน อันตรายต่อสีรถ หากไม่เช็ดหรือทำความสะอาดให้แห้ง

เมื่อต้องเข้าสู่หน้าฝน หลายท่านอาจจะเบื่อกับสิ่งที่ต้องเจอกับรถที่สุดรักสุดหวง นั่นก็คือ คราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ ทั้งคราบโคลน คราบน้ำ ยิ่งวันไหนที่ฝนตกแล้วต้องใช้รถวันนี้จะยิ่งทำให้รถของใครหลายคนต้องอยู่ในสภาพยับเยินเลยก็ได้ แต่รู้หรือไม่ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ฝนที่ตกลงมามีทั้งฝนที่มีสารเคมี กรด และสิ่งป่นเปื้อนมากมาย บางท่านเมื่อรถเปียกฝนมา ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ปล่อยให้แห้งเอง แต่สิ่งนี้แหละที่จะเป็นอันตรายอย่างมากต่อสีรถ เพราะอะไรมาทำความเข้าใจกัน เมื่อรถตากฝน หรือ เปียกน้ำ สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง โดยเด็ดขาด เพราะเมื่อโดนลม โดนอากาศ โดยปราศจากการเช็ดการล้าง จะทำให้คราบน้ำที่ไม่ไหลลง เกิดคราบเกาะติดตัวรถ และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 วันจะทำให้คราบดังกล่าวนั้นแห้งติดโดยที่เราจะใช้น้ำล้างปกติไม่ออก ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดรถโดยทันที ข้อนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะมือใหม่ที่ดูแลรถ เพราะการใช้ผ้ามาเช็ดรถที่เปียกโดยทันทีนั้น จะเกิดรอยขนแมวทันที เพราะน้ำที่เหาะติดรถเราไม่รู้ว่ามีเศษเม็ดทราย หรืออะไรติดอยู่ด้วย หากเราใช้ผ้ามาเช็ดทันที จะเกิดริ้วรอยบนผิวรถทันที สิ่งที่ควรทำ เมื่อรถเปียกฝน หรือคราบน้ำมา ควรใช้น้ำสะอาด ฉีด ล้าง คราบน้ำที่ติดมาออกไปก่อน เพราะจะได้ทำการชะล้าง คราบน้ำที่อาจปนเปื้อนมาออกให้หมด ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด ควรทำการเช็ดให้แห้ง หรือ เป่าแห้ง เพราะจะช่วยลดการเกิดคราบน้ำตกค้างในจุดที่มองไม่เห็นหรือผ้าเช็ดไม่หมด เสี่ยงต่อการเกิดสนิม [...]